เพราะฉันขัน ตะวันจึงขึ้น (อย่าทำงานจนป่วยตาย อย่าหลงใหลตัวเอง)
โดยท่าน ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย
ที่วัดเซนแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น
มีไก่อยู่ครอบครัวหนึ่ง หัวหน้าครอบครัวเป็นผู้บริหารที่เก่งมาก
กางปีกปกป้องภรรยาและลูกทุกตัว
อยู่กันมาอย่างมีความสุข….
ทุกๆ เช้าเวลาตีห้า ไก่ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวจะบินขึ้นไปเกาะอยู่บนกิ่งไม้
และโก่งคอขันเสียงก้องไปทั้งพงไพร ประมาณหกโมงเช้า
พระอาทิตย์ก็จะอรุโณทัยฉายแสงขึ้นมาส่องแสงสว่างไปทั่วทั้งสากลโลก….
ไก่สี่ตัวนี้จะมีความสุขมากที่ได้เห็นตะวันค่อยๆ ทอแสงสุขสว่างขึ้นมา
เขาจะยืนชื่นชมแสงตะวัน และก็ยืนภาคภูมิใจว่า
เพราะฉันขันตะวันจึงขึ้น มีความสุข
นี่คือผลงานของฉัน…
ทุกๆ เช้าไก่ตัวนี้ก็จะบินขึ้นมาเกาะกิ่งไม้
และเมื่อขันเสร็จแล้วก็รอดูตะวันขึ้นที่เหนือยอดเขา
พอตะวันขึ้นเสร็จแล้วก็บินกลับลงมาหาอยู่หากินกับลูกกับเมีย
เขามีความสุขมาก….
ต่อมาวันหนึ่ง เนื่องจากตรากตรำภาระหนักเหลือเกิน ร่างกายทนไม่ไหวก็ป่วย
เช้าตรู่วันนั้นไก่ตัวนั้นก็บินขึ้นไปเกาะกิ่งไม้ที่เดิม
ขณะจะขันเพื่อเรียกตะวันขึ้นก็ร่วงตกลงมา รู้สึกไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง
ลูกชายซึ่งเป็นไก่โต้งคนรุ่นใหม่ไฟแรงเดินเข้ามาประคองพ่อ
“พ่อ ผมว่าถ้าพ่อขันไม่ไหว วันนี้ผมขันแทนเอาไหม”
ไก่พ่อซึ่งเป็นซีอีโอ ก็ยืดอกขึ้นมาชี้หน้าลูก
“น้ำหน้าอย่างแก ถ้าขันตะวันมันจะขึ้นไหม หัดดูเงาหัวตัวเองซะบ้างสิ”
เจอผู้ใหญ่ดับฝันแบบนี้ลูกหัวหดเลย
เช้าตรู่วันนั้นทั้งๆ ที่ป่วย ไก่ซีอีโอตัวนี้ก็บินขึ้นไปเกาะบนกิ่งไม้
และก็ขันครั้งสุดท้าย ขันได้ครั้งเดียว ตกลงมาดิ้นพราดๆ ก่อนจะขาดใจตาย
เรียกประชุมผู้ถือหุ้นด่วน
ทั้งภรรยาและลูกมากันครบ
สั่งเสียว่า
“เธอที่รัก ลูกพ่อ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปพี่คงไม่มีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้ว และจากนี้เป็นต้นไป พอพี่ไม่ขัน ตะวันก็จะไม่ขึ้น โลกก็จะเข้าสู่กลียุค ฉะนั้นขอให้เธอและลูกดูแลบริษัทของเราให้ดีๆ ถ้าไม่มีพี่แล้วจะอยู่กันด้วยความยากลำบาก มนุษยชาติก็จะถึงคราววิบัติ ดูแลกันดีๆ นะที่รัก”
เสร็จแล้วก็ล่วงลับดับขันธ์ไป
พร้อมกับความเข้าใจผิดว่า …เพราะฉันขันตะวันจึงขึ้น…
หารู้ไม่ว่าวันรุ่งขึ้น พอไก่ตัวนี้ตายไปแล้ว ตะวันก็ยังขึ้นเหมือนเดิม
โลกดำเนินต่อไปไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ไก่ตัวนั้นไม่ได้นำเอาตะวันไปด้วยสักนิด
พระอาทิตย์ยังคงอุทัย…
พระจันทร์ยังคงทอแสง…
สายน้ำยังคงไหลเอื่อย…
ดอกไม้ยังคงผลิบาน…
โลกนี้ยังคงมีข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์…
นกก็ยังมีข้าวปลาอาหาร….
คนต่างๆ ก็ยังคงทำงานต่อไปได้เหมือนเดิม….
ฉะนั้น ผู้บริหารทุกคน…
เมื่อเราบริหารงานไปได้ระดับหนึ่งแล้ว …
อย่าหลงตัวเองว่าองค์กรนั้นถ้าขาดฉันแล้วไปต่อไม่ได้…
ควรเตือนตัวเองเอาไว้บ่อยๆ ว่า…
ถ้าขาดฉันแล้วมันจะไปได้ดี…
เพื่อจะได้ไม่หลงตัวเอง….
ผู้บริหารจำนวนมาก ทันทีที่ประสบความสำเร็จ ก็ล้มเหลวในวันนั้น
เพราะทันทีที่ประสบผลสำเร็จก็เริ่มหลงตัวเอง
และนี่แหละคือจุดจบของผู้บริหาร
ฉะนั้นจำนิทานเรื่องนี้ไว้
วันหนึ่งถ้าเราประสบความสำเร็จ
ก็อย่าไปหลงตัวเองว่าเราต้องเป็นหนึ่งในตองอูเท่านั้น
จนไม่ยอมบริหารจัดการอำนาจความรับผิดชอบให้กับผู้อื่นเลย
…ผู้บริหารที่ดีจึงไม่ใช่ผู้ที่แบกหนักที่สุด
ผู้บริหารที่ดีคือผู้ที่แบกหนักพอสมควร และกระจายภาระให้คนอื่นแบก
และประการสำคัญที่สุด ผู้บริหารจะไม่ทำงานจนป่วยตาย…
ที่มา Forward mail ที่ได้รับเมื่อนานมาแล้ว อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆ ขออนุญาตแชร์ต่อครับ
++++++++++